พยาธิในแมวและสุนัข เกิดจากอะไร?
การติดพยาธิในแมวและสุนัขเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อย โดยพยาธิสามารถเข้าสู่ร่างกายสัตว์เลี้ยงได้จากหลายช่องทาง ไม่ใช่เฉพาะแค่การบริโภคอาหารเท่านั้น สาเหตุทั่วไปของการติดพยาธิ ได้แก่:
1. สิ่งแวดล้อมและที่อยู่อาศัย
สัตว์เลี้ยงที่ออกไปนอกบ้านหรือในที่สาธารณะมีโอกาสสัมผัสพยาธิที่อยู่ในดิน ทราย หรือมูลสัตว์ได้ง่าย เมื่อติดพยาธิแล้วจะมีโอกาสสูงที่พยาธิจะเข้าสู่ร่างกายผ่านการเลียขน
2. การสัมผัสกับสัตว์ตัวอื่น
สัตว์เลี้ยงที่มีการสัมผัสกับสัตว์จรจัดหรือตัวอื่นๆ มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับพยาธิ เนื่องจากพยาธิสามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสหรือสิ่งของที่ใช้ร่วมกันได้
3. แมลงและพาหะนำโรค
แมลง เช่น หมัดและเห็บ เป็นพาหะนำพยาธิ เช่น พยาธิตัวกลม ซึ่งอาจเข้าสู่ร่างกายของสัตว์เลี้ยงได้จากการกัดหรือเลียบริเวณที่แมลงกัด

การป้องกันพยาธิด้วยกระบวนการแช่แข็งในอุณหภูมิติดลบ
การให้อาหาร บาร์ฟแมว หรือ บาร์ฟสุนัข ที่ผ่านการแช่แข็งตามมาตรฐานของ FDA (สหรัฐอเมริกา) และ EU (สหภาพยุโรป) สามารถลดความเสี่ยงต่อพยาธิได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกระบวนการแช่แข็งเนื้อดิบที่อุณหภูมิต่ำ จะช่วยกำจัดพยาธิที่อาจมีอยู่ในเนื้อดิบได้อย่างปลอดภัย แบรนด์บาร์ฟ Sire and Dam ได้ใช้กระบวนการนี้ในการผลิตบาร์ฟคุณภาพสูง เพื่อให้เจ้าของมั่นใจว่าปลอดภัยสำหรับสัตว์เลี้ยง
การทานบาร์ฟที่มีคุณภาพไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงต่อพยาธิมากกว่าอาหารสำเร็จรูปทั่วไป
การเลือกบาร์ฟที่มีคุณภาพ ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงในการติดพยาธิให้กับสัตว์เลี้ยงมากไปกว่าอาหารสำเร็จรูปทั่วไป หากผ่านการเตรียมและแช่แข็งอย่างถูกต้อง บาร์ฟคุณภาพสูง เช่น บาร์ฟจาก Sire and Dam ได้รับการคัดสรรวัตถุดิบและผ่านกระบวนการที่เหมาะสมตามหลักสากล จึงปลอดภัยในการบริโภค อีกทั้งยังมีประโยชน์ด้านโภชนาการที่ช่วยให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพที่ดีขึ้น
ความสำคัญของการถ่ายพยาธิเป็นประจำ
แม้ว่าการเลือกบาร์ฟคุณภาพจะช่วยลดความเสี่ยงต่อพยาธิได้ แต่การถ่ายพยาธิเป็นประจำยังคงมีความจำเป็น เพื่อป้องกันพยาธิที่สัตว์เลี้ยงอาจได้รับจากแหล่งอื่น การถ่ายพยาธิตามคำแนะนำของสัตวแพทย์จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดจากพยาธิในระยะยาว
การติดพยาธิในแมวและสุนัขเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในสัตว์เลี้ยง พยาธิสามารถเข้าสู่ร่างกายสัตว์เลี้ยงได้จากหลายช่องทางนอกเหนือจากอาหาร เช่น การสัมผัสกับสิ่งแวดล้อม การติดต่อกับสัตว์อื่น หรือแม้กระทั่งการถูกแมลงและพาหะนำโรคกัด ซึ่งทำให้พยาธิสามารถเข้าสู่ร่างกายได้
1. สิ่งแวดล้อมและที่อยู่อาศัย
สัตว์เลี้ยงที่ออกไปนอกบ้านหรือพื้นที่สาธารณะมีโอกาสสูงในการสัมผัสกับพยาธิในดินหรือทราย รวมถึงตามพื้นที่ที่มีมูลสัตว์ปนเปื้อน เมื่อติดพยาธิ พยาธิจะเกาะติดตามขนและอาจเข้าสู่ร่างกายได้เมื่อสัตว์เลี้ยงทำความสะอาดตัวเอง
2. การสัมผัสกับสัตว์ตัวอื่นที่มีพยาธิ
สัตว์เลี้ยงที่มีการสัมผัสกับสัตว์ตัวอื่น โดยเฉพาะสัตว์จรจัด มีความเสี่ยงในการได้รับพยาธิ เนื่องจากพยาธิบางชนิดสามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสโดยตรงหรือผ่านการใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น ของเล่นและที่นอน
3. แมลงและพาหะนำโรค
แมลง เช่น หมัดและเห็บ เป็นพาหะที่สามารถนำพยาธิมาสู่สัตว์เลี้ยงได้ เช่น พยาธิตัวกลม ที่สามารถเข้าทางบาดแผลหรือการกัดบริเวณที่ถูกแมลงกัด

การป้องกันพยาธิด้วยกระบวนการแช่แข็งในอุณหภูมิติดลบ
สำหรับผู้ที่ให้อาหาร บาร์ฟแมว หรือ บาร์ฟสุนัข การเตรียมวัตถุดิบที่ปลอดภัยถือเป็นหัวใจสำคัญในการลดความเสี่ยงต่อพยาธิ การเลือกบาร์ฟที่ผ่านการแช่แข็งตามมาตรฐานสากล เช่น แนวทางของ FDA (สหรัฐอเมริกา) และ EU (สหภาพยุโรป) เป็นวิธีที่ได้รับการรับรองว่ามีประสิทธิภาพในการฆ่าพยาธิ
ตามหลักการนี้ กระบวนการแช่แข็งเนื้อดิบควรทำในอุณหภูมิต่ำกว่า -18 องศาเซลเซียส เป็นระยะเวลาประมาณ 7 วัน เพื่อฆ่าพยาธิที่อาจมีอยู่ในเนื้อสัตว์ และหากแช่แข็งที่อุณหภูมิ -35 องศาเซลเซียส สามารถลดเวลาลงเหลือเพียง 15 ชั่วโมง ซึ่งเป็นมาตรฐานที่แบรนด์ Sire and Dam นำมาใช้ในการเตรียมบาร์ฟแมวและบาร์ฟสุนัข ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการบริโภคและลดความเสี่ยงในการติดพยาธิอย่างมีประสิทธิภาพ
ความสำคัญของการถ่ายพยาธิเป็นประจำ
แม้ว่าการเลือกบาร์ฟที่ผ่านกระบวนการแช่แข็งตามมาตรฐานจะช่วยลดความเสี่ยงต่อพยาธิได้ แต่การถ่ายพยาธิเป็นประจำก็ยังคงจำเป็นเพราะสัตว์เลี้ยงอาจสัมผัสกับพยาธิจากแหล่งอื่นๆ การถ่ายพยาธิตามคำแนะนำของสัตวแพทย์จะช่วยให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพที่ดี ลดปัญหาท้องอืด และเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
การดูแลให้สัตว์เลี้ยงได้รับบาร์ฟที่ผ่านการแช่แข็งและการถ่ายพยาธิอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้แมวและสุนัขของคุณมีสุขภาพดีในระยะยาว